ภาพ 20 การ์ดจอ
สล็อตของการ์ดจอ
(GraphicCard
Slot)
คือ
สล็อตที่ใช้สำหรับใส่การ์ดจอบนเมนบอร์ด(Mainboard) หลักๆ มีอยู่ 2 แบบ คือ AGP(Accelerate Graphic Port) และสล็อต PCI
Express x16 ลักษณะของทั้ง 2
สล็อตนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเมนบอร์ดรุ่นใหม่จะนิยมใช้สล็อต PCI Express x16 ทั้งหมดแล้ว เพราะว่าประสิทธิภาพในการรับ/ส่งข้อมูลระดับ
4GB/s
ซึ่งสูงกว่า AGP 8x
ถึง 2 เท่า
ภาพ 21 สล็อตของการ์ดจอ
AGP (Accelerated Graphic Port)
เป็นระบบบัสที่มีความถี่ในการทำงานที่
66.6 MHz ด้วยความกว้างบัสขนาด 32 บิตมาตรฐานเริ่มต้นคือ AGP 1X ซึ่งให้
Bandowidth ที่ 266 MB/sec (โดยประมาณ)
แต่สำหรับมาตรฐานล่าสุดที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันคือ AGP 8X ซึ่งให้
Banidth สูงสุดที่ 2132
MB/sec หรือ 213 GB/sec
ภาพ 22 PCI Express
เป็นมาตรฐานของระบบบัสแบบใหม่ที่ใช้วิธีการรับส่งข้อมูลกันในแบบอนุกรม
(Serial) สองทิศทางทั้งไปและกลับ
ซึ่งถูกออกแบบให้เลือกใช้ความเร็วมากน้อยได้ตามต้องการของอุปกรณ์แต่ละชนิด และยังให้แบนด์ดิวธ์
(Bandwidth) เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
โดยมาตรฐานเริ่มต้นคือ PCI Express x1 (นำมาใช้แทน PCI เดิม)
ให้แบนด์วิดธ์ทั้งไปและกลับรวมกันสูงสุด 500
MB/sec แต่สำหรับมาตรฐานล่าสุดที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันคือ
PCI Express x16 (ใช้แทน AGP เดิม)
นั้น ให้แบนด์วิดธ์ทั้งไปและกลับรวมกันสูงสุดมากถึง 8000
MB/sec หรือ 8
GB/sec เลยทีเดียวนอกจากนี้บนเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆหลายรุ่นยังรองรับเทคโนโลยี
SLI(Scalable
Link Interface multi-GPU Technology) โดยมีการติดตั้งสล็อตแบบ
PCI
Express x16 นี้มาให้พร้อมกันถึง 2
ตัวเพื่อช้วยเพิ่มประสิทภาพในการประมวลผลกราฟิกให้สูงขึ้นอีกด้วย
ภาพ 23 ชิปประมวลผลกราฟิก (GPU:
Graphic Proessing Unit)
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดบนตัวการ์ด
ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลด้านกราฟิกโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยลดภาระในการทำงานของซีพียูลงรวมทั้งเพิ่มความเร็วในการแสดงภาพ
2 และ 3 มิติ
ทั้งภาพนิ่งและภาพเครื่องไหวบนจอแสดงผลปัจจุบันบริษัทที่แข่งขันกันผลิตชิ
ปประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำไปใช้ประมวลผลภาพกราฟิกแบบ 3 มิติสำหรับเกมต่างๆที่ผู้ใช้โดยทั่วไปไปรู้จักกันดีมีอยู่ 2 บริษัทใหญ่ คือ nVIDIA ผุ้ผลิตชิปประมวลผลกราฟิกในตะกูล GeForce ซีรี่ส์ต่างๆ เช่น Series
7 และ 6 รุ่น 7950, 7900, 6800 และ 6600 เป็นต้น และ บริษัท
ATI
ผูเผลิตชิปประมวลผลกราฟิกในตระกูล Radeon ซีรี่ส์ต่างๆ เช่น Series X1900, X1800, X800 และ X550 เป็นต้น
ภาพ 24 หน่วยความจำบนตัวการ์ด (VIRAM : Video
RAM)
ทำหน้าที่รับเอาข้อมูลภาพที่ถูกส่งมาจากหน่วยประมวลผลกราฟิก
(GPU)
มาพักหรือจัดเก็บไว้
เพื่อจะนำไปแสดงผลบนจอภาพในแต่ละเฟรมหรือเรียกว่าเป็น Frame Buffer นั่นเองหน่วยความจำบนตัวการ์ดนี้จะคอยทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก(GPU) อยู่อย่างใกล้ชิดแบบเดียวกับหน่วยความจำหลัก
หรือแรมบนเมนบอร์ดทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ดังนั้นถ้า VRAM
ยังมีความเร็วและมีความจุสูงมากขึ้นเท่าไร
ก็จะยิ่งช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพมีตั่งแต่ SDRAM, RDRAM, DDR-SDRAM, DDR2 และ DDR3 (GDDR3) ซึ่งแต่ละชนิดต่างก็มีประสิทธิภาพ
และราคาที่แตกต่างกันไป
ภาพ 25 ตัวแปลงสัญญาณสู่จอภาพ (RAMDAC)
RAMDAC
หรือ RAM Digital-to-Analog Convertor เป็นชิปที่ทำหน้าที่แปลงข้อมูลดิจิตอลใน RAM ให้เป็นสัญญาณอนาล็อกเพื่อส่งไปยังจอภาพ โดยการวนอ่านข้
อมูลซ้ำๆกันไปเรื่อยๆตามอัตรา Refresh Rate ซึ่งยิ่งตั่งให้สูงเท่าไรก็ต้แงทำงานเร็วขึ้นเท่านั้น
เช่น Refresh
Rate 75 Hz ก็คือ RAMDAC จะต้องวนอ่านข้อมูลไปสร้างภาพซ้ำๆกัน
75 ครั้งต่อวินาทีตามไปด้วย ดังนั้นยิ่ง RAMDAC มีความเร็วสูงมากก็ยิ่งรับ Refresh Rate ได้สูงตามไปด้วย เช่น RAMDAC ที่ 300
MHz ก็น่าจะให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่ารุ่นที่มีความเร็วแค่ 150 MHz เป็นต้น
ช่องสัญญาณหรือช่องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ
เป็นช่องต่างๆของการ์ดจอที่เอาไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก
เช่น จอภาพ (CRT/LCD)
จอโทรทัศน์ และกล้องถ่ายวิดิโอ เป็นต้น
สำหรับการ์ดจอโดยทั่วๆไปในปัจจุบันมักจะมีช่องต่างๆดังนี้
ภาพ 26 D-Sub (VGA)หรือ VGA Connector
เป็นคอนเน็คเตอร์แบบ
15-Pin
รูปตัว D มักพบเห็นได้ทั่วไป
ใช้สำหรับสีญญาณภาพแบบอนาล็อก (Analog) ที่ต่อจากการ์ดแสดงผลไปยังจอภาพ
ซึ่งต่อชนิดนี้จะมีทั้งที่ใช้กับจอ CRT, LCD และ Projector
ด้วย
ภาพ 27 DVI Connector
ใช้สำหรับการส่งสัญญาณภาพแบบดิจิตอล (Digital) ไปยังจอภาพ ซึ้งจอภาพที่ใช้จะต้องเป็นแบบที่รับสัญญาณดิจิตอลได้ด้วยเช่นกัน
ข้อดีคือไม่ต้องผ่านการแปลงให้เป็นสัญญาณอนาล็อกก่อน
ภาพได้จึงนิ่งสนิทและมีความเพี้ยนน้อยที่สุด
ปัจจุบันมักพบเห็นได้ทั่วไปบนการ์ดแสดงผลจอ LCD รุ่นใหม่ๆ
ภาพ 28 S-Video
ใช้สำหรับส่งสัญญาณภาพออกสู่จอทีวีผ่านสาย
S-Video
สัญญารภาพที่ถูกส่งอออกไปจะมีความละเอียดคมชัดกว่าช่องต่อ TV-Out ด้วยเหตุนี้การ์ดจอรุ่นใหม่ๆจึงมักจะมีช่องต่อ S-Video นี้มาให้แทน TV-Out เสมอ
ภาพ 29 TV-Outหรือช่องต่อ Composite
ประเภทการ์ดจอ
อุปกรณ์ตัวนี้เป็นตัวสำคัญในการกำหนดว่าจะมีอะไรไปออกที่จอภาพได้บ้าง
รวมไปถึงความละเอียดและสีที่จะแสดงออกบนจอภาพ
ซึ่งจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างของวงจรบนการ์ด และมีส่วน
สัมพันธ์กับชอฟต์แวร์ที่จะให้ในการแสดงผลเป็นอย่างมาก
ต่อไปนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการ์ดแสดงผลในแต่ละแบบโดยเริ่มกันที่การ์ดแสดงผลรุ่นบุกเบิกของไอบีเอ็มคือ
MDA
MDA
(Monochrome Display Adapter) เป็นการ์ดแสดงผลรุ่นแรกของไอบีเอ็ม
นิยมใช้กับจอโมโนโครมสามารถแสดงผลได้เฉพาะข้อความ (text) เท่านั้น และแสดงได้เพียงสีเดียวไม่สามารถแสดงรูปกราฟิกใด ๆ ได้
เนื่องจากเป็นข้อจำกัดของการ์ดแสดงผลเอง ปัจจุบันนี้แทบจะไม่มีใช้กันแล้ว
เพราะว่าชอฟต์แวร์ปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การแสดงผลกราฟิกและสีสันที่สวยงาม
CGA
(Color Graphics Adapte เป็นการ์ดรุ่นถัดมาของไอบีเอ็มที่สามารถแสดงได้ทั้งข้อความและรูปภาพ
โดยสีที่แสดงจะได้สูงสุดถึง 16สีแต่จะขึ้นอยู่กับความละเอียดในการแสดงผลด้วยกล่าวคือ
ถ้าความละเอียดในการแสดงผลมาก จำนวนสีที่แสดงได้ก็น้อยลง เช่น
ถ้ามีความ-ละเอียดในการแสดงผลสูงสุด 640 X 200 จุด จะสามารถแสดงสีได้เพียง 2 สีเท่านั้น
คือขาวกับดำแต่ถ้าเป็นความละเอียด 320 X 200 จุด ก็จะแสดงสีได้ 4 สี เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องมาจากหน่วยความจำบนการ์ดมีอยู่อย่างจำกัดหน่วยความจำที่ว่านี้
ก็คือวิดีโอแรมที่ใช้เก็บรูปภาพบนจอ
ถ้านำหน่วยความจำนี้ไปใช้ในการเก็บสีจำนวนมากแล้ว
ก็จะเหลือหน่วยความจำที่ใช้เก็บรูปภาพได้น้อยลงดังนั้นจึงสรุปได้ว่า
ถ้าความละเอียดในการแสดงผลสูงขึ้นจำนวนสีที่แสดงได้ก็จะน้อยลง
เฮอร์คิวลิส
(hercules)
สืบเนื่องจากข้อจำกัดของการ์ดแสดงผลแบบ MDA ที่แสดงผลได้เฉพาะข้อความบนจอโมโนโครมเท่านั้น
การที่จะเปลี่ยนไปใช้การ์ดแสดงผลแบบ CGA เพื่อ ให้สามารถแสดงรูปภาพที่เป็นกราฟิกได้ก็จำเป็นต้องไปหาซื้อจอสีมาใช้
ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าจอโมโนโครมมากพอสมควร
ดังนั้นจึงมีผู้คิดค้นพัฒนาการ์ดแสดงผลอีกแบบหนึ่งขึ้นมาเพื่อให้สามารถแสดง
ผลทั้งข้อความและรูปภาพบนจอโมโนโครมได้ การ์ดที่ว่านี้ก็คือการ์ดเฮอร์คิวลิส
ซึ่งคิดค้นโดยบริษัทเฮอร์คิวลิสเทคโนโลยี
แล้วการ์ดแสดงผลแบบเฮอร์คิวลิสหรืออาจจะเรียกกันในชื่อโมโนโครมกราฟิก อะแดปเตอร์ที่เรียกกันเช่นนี้ก็เนื่องจากหน่วยความจำบนการ์ดสูงมากถึง
64 กิโลไบต์
ซึ่งเพียงพอสำหรับการทำเป็นวิดีโอแรมทั้งสำหรับการใช้งานในโหมดของข้อความ
และรูปภาพพร้อม ๆ กัน
ซึ่งปัจจุบันนี้การ์ดชนิดนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับจอโมโนโครมไป
EGA
เมื่อชอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกต้องการอุปกรณ์แสดงผลที่มีความละเอียดสูงขึ้นและแสดงสีได้มากขึ้น
ซึ่งการ์ดแสดงผลแบบ CGA
ไม่สามารถรองรับงานแบบนี้ได้
ไอบีเอ็มจึงได้ออกการ์ดแสดงผลแบบใหม่ที่เรียกว่า EGA (Enhanced Graphic Adapter) การ์ดรุ่นใหม่นี้มีความสามารถที่สูงขึ้นกว่าการ์ด CGA มากนัก กล่าวคือ มีหน่วยความจำบนการ์ด 128 กิโลไบต์ หรืออาจจะติดตั้งได้ถึง 256 กิโลไบต์ ความละเอียดในการแสดงผลสูงถึง 640 X 350 จุด แสดงสีได้พร้อมกัน 16 สีจากที่มีให้เลือ64 สี การ์ดรุ่นใหม่นี้ต้องใช้กับจอ EGA ของไอบีเอ็ม หรืออาจจะเป็นจอสียี่ห้ออื่นที่สนับสนุนการ์ดแสดงผลแบบ
EGA
ก็ได้การ์ดแสดงผลแบบ EGAนี้ นอกจากจะทำงานในลักษณะที่มีความละเอียดและจำนวนสีสูงกว่าการ์ด CGA แล้ว ยังสามารถทำงานเลียนแบบหรือแทนการ์ดแบบ CGA ได้อีกด้วยบรรดาขอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาเพื่อใช้แสดงผลออกมาทางการ์
CGA
สามารถนำมาใช้กับ EGA ได้ด้วยแต่อาจจะไม่เสมอไป เนื่องจากวงจรภายในของการ์ด EGA มีชิปไอซีที่แตกต่างไปจากการ์ด CGA ทำให้การทำงานภายในแตกต่างกัน โดยทั้งนี้ภายในการ์ด EGA จะมีโปรแกรมไบออสที่คอยควบคุมการทำงาน
โปรแกรมตัวนี้จะจัดการปรับการทำงานกับวงจรภายในตการ์ด EGA ให้เข้ากับโปรแกรมที่ทำมาสำหรับการ์ด CGA ได้ แต่ทั้งนี้โปรแกรมนั้น ๆ
จะต้องส่งข้อมูลออกทางจอภาพผ่านไบออสนี้เท่านั้น
ถ้าเป็นการเขียนข้อมูลลงวิดีโอแรมโดยตรงเพื่อแสดงผลโดยไม่มีการเรียกใช้ไบออ
สก็จะเกดความไม่เข้ากันทำให้ใช้งานไม่ได้การ์ดขนิดนี้ได้รับความนิยมอย่าง
มากในสมัยหนึ่ง จนทำให้มีผู้ผลิตการ์ดขนิดนี้ตามออกมาอย่างมากมาย
โดยพยายมปรับปรุงรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีขึ้นกว่าของไอบีเอ็ม เช่น
ทำให้มีขนาดเล็กลงความละเอียดในการแสดงผลที่สูงขึ้น
และในราคาที่ต่ำกว่าของไอบีเอ็ม
PGA
(Professional Graphic Adapter) เป็นการ์ดแสดงผลอีกรุ่นหนึ่งของไอบีเอ็ม
ที่มีความสามารถในการแสดงผลสูงกว่า EGA โดยสามารถแสดงสีได้ 256 สีพร้อมกันจากทั้งหมด 4096 สีความละเอียดถึง 640
X 480 จุด การ์ดชนิดนี้ถูกออกแบบมาสำหรับจอ PGA โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับใช้งานกับโปรแกรมที่เน้นทางด้านกราฟิก
เช่น CAD/CAM
หรือโปรแกรมวาดรูปต่าง ๆ ถ้าจะสังเกตให้ดี
คุณภาพของการ์ดนี้จะพอ ๆ กับการ์ดแบบ EGA ของบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ไอบีเอ็ม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความละเอียดหรือสีดังนั้นการ์ดขนิดนี้จึงไม่แพร่หลายเท่าที่ควร
โดย-เฉพาะในบ้านเราจะไม่ค่อยได้ยินชื่อการ์ดชนิดนี้กันมากนัก
MCGA
(Multi-Color Graphics Array) เป็นการ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ที่ไอบีเอ็มออกมาเพื่อให้ใช้งานกับเครื่อง
PS/2ในรุ่นเล็ก ๆ (model25 และ 30)ความสามารถในการแสดงผลจะสูงกว่าEGA คือความละเอียดสูงถึง 640 X 480 จุด แสดงสีได้ 2 สี แต่ถ้าเป็นโหมดความละเอียด320 X 200จุด จะสามารถแสดงสีได้ถึง256 สีการ์ดชนิดนี้สามารถทำได้ทุกอย่างเทียบเท่ากับการ์ด
แต่จะยกเว้นเพียงบางโหมของ EGAเท่านั้น
VGA (Video Graphics Array) เป็นการ์ดแสดงผลสำหรับเครื่องPS/2 อีกรุ่นหนึ่งที่มีความสามารถสูงกว่าMCGA โดยสามารถแสดงสีได้ถึง16สี
ที่ความละเอียด 640
X 480จุดหรือจะเลือกความละเอียด320 X 200 จุดซึ่งเลือกสีได้มากถึง256สี การออกแบบการ์ดVGAนั้นมุ่งเน้นไปที่ให้มีความสามารถในการรองรับการแสดงผลทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นCGA หรือEGAดังนั้นชอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ใช้กับการ์ดแสดงผลแบบCGA และ EGA จึงสามารถนำมาใช้กับVGAด้ และคุณภาพของภาพก็จะดีกว่าด้วย การ์ดแสดงผลแบบGA นี้ได้รับความนิยมอย่างสูง จนมีบรรดาผู้ผลิตรายอื่น
ๆหันมาผลิตการ์ดที่คอมแพตกับไอบีเอ็มมากขึ้น จนอาจกล่าวได้ว่าปัจจุบัน VGAได้กลายเป็นมาตรฐานของการแสดงผลไปแล้ว
โดยจะเห็นได้จากเครื่องพีซีหลาย ๆ ยี่ห้อได้สร้างการ์ด VGA ติดมากับเมนบอร์ดเลย ทำให้มาตรฐานการแสดงผลเป็นแบบVGA ไปโดยปริยาย
Super
VGAมักจะมีการกล่าวถึง Super VGA .ในทางช่วยส่งเสริมเช่นมีสีมากขึ้นหรือมีความละเอียดสูงขึ้น
ซึ่งช่วยให้มั่นใจในความเข้ากันได้กับVGA คำแนะนำของVESAคือจะต้องมีความละเอียด 800 X 600และ16สี แต่ผู้ผลิตมักจะผลิตบอร์ดที่มี256 สี หรืออาจจะกล่าวถึงบอร์ดที่ให้ความละเอียด1,024 X 768ว่าเป็น Super VGA อย่างไรก็ดีก็มีปัญหาคือจำนวนมาตรฐานของการแสดงภาพกราฟิกที่มีอยู่มากมาย
มาตรฐาน VGA
เองจะรวมโหมดการแสดงผลไว้17โหมดซึ่งเป็นวิธีการต่าง ๆ ในการแสดงภาพบนจอโหมดเหล่านี้ส่วนมากจะเข้ากันได้ย้อนหลังกับมาตรฐานก่อน
ๆ ที่มีความสำคัญมากคือ colorgraphics
adapter (CGA)enhanced graphics adapter(EGA)แลmonochrome
display adapter (MDA) ถ้าตัดมาตรฐานก่อน ๆ ออก ก็จะเหลือ Super VGA (ใช้เป็นมาตรฐานที่ไม่ค่อยมาตรฐานนัก)
อะแดปเตอร์ 8511/Aของ IBMสำหรับเครื่องMCA และมาตรฐานextended
graphics array (XGA)ของIBMมาตรฐานเหล่านี้ทั้งหมดให้สีหรือความละเอียดสูงกว่า VGA นั่นไม่ได้รวมอะแดปเตอร์ต่าง ๆ ที่ใชิป continonous edge
graphics (CEG) ใหม่ ซึ่งกล่าวไว้ว่าจะให้สีมากกว่า740,000 สีบนจอภาพของคุณในเวลาเดียวกัน และมากเป็นพิเศษดได้แม้แต่บนการ์ดความละเอียด
1,600
X 1,200
จุดก็ยังสามารถให้สีได้มากกว่าล้านสีก่อนที่คุณจะผลุนผลันออกไปซื้ออะแดปเตอร์แสดงผล
มีสิ่งที่ควรจำไว้หนึ่งข้อนั่นคือชอฟต์แวร์
ชอฟต์แวร์ใหม่ส่วนมากจะรวมส่วนสนับสนหุนสำหรับโหมด VGA มาตรฐานกับการ์ดแสดงผลอื่น ๆ คุณได้แต่หวังว่าผู้ผลิตจะรวมไดรเวอร์
สำหรับชอฟต์แวร์ให้ด้วย เรื่องนี้อาจจะไม่เป็นปัญหา
ถ้าคุณใช้ Lotus 1-2-3 Auto CAD, Windows หรือVentura Publisherนอกเหนือจากพวกนี้
คุณจะต้องมั่นใจว่าผู้ผลิตจัดเตรียมไดรเวอร์ที่คุณต้องการให้ก่อนที่คุณจะซื้อการ์ดใหม่เรื่องแบบนี้มีการเปลี่ยนแปลงทุกวัน
ดังนั้นถามไว้เสมอว่ารวมไดรเวอร์ให้ด้วยแล้วเรื่องสำคัญที่ออกมาอีกเรื่องหนึ่งคือจอภาพที่คุณมีอยู่สามารถที่จะสนับสนุนความละเอียดที่สูงกว่าซึ่งมีอยู่ในการ์ดหรือไม่ถ้าคุณมีจอภาพแบบCGA หรือEGAคอมแพติเบิล
คุณมีโอกาสที่จะต้องใข้จอภาพใหม่เพื่อเอาส่วนดีของ VGAหรือบอร์ดแสดงผลที่ดีกว่ามาใช้งานจอภาพรุ่นเก่าใช้ดิจิตอลอินเตอร์เฟชในขณะที่VGAต้องการแอนะล็อกอินเตอร์เฟชมีเพียงจอภาพหลายความถึ่เท่านั้นที่ให้คุณใช้ได้ทั้งระบบดิจิตอลและแอนะล็อก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจอภาพหลายความถี่ทุกเครื่องจะทำงานกับการ์ดVGA ได้จอภาพต้องทำงานได้ภายในความถี่ที่สแกนในแนวนอนและแนวตั้งที่มาตรฐานต้องการและคุณตั้งใจจะใช้
(ดูบทที่ 4 เรื่องจอภาพและความต้องการต่าง ๆ) 8514/A ชื่อ 8514
นั้นเป็นชื่อจอภาพรุ่นหนึ่งของไอบีเอ็ม ในปี ค.ศ.1987 ดังนั้น การ์ดแสดงผลแบบนี้จึงใข้เฉพาะในเครื่องตระกูลPS/2รุ่นสูง ๆ ของไอบีเอ็มเท่านั้น การ์ด
แสดงผลชนิดนี้จะมีความละเอียดที่สูงกว่าVGA ขึ้นไปอีก โดยสามารถแสดงสีได้สูงสุด256 สีที่ความละเอียด 1024 X 768จุด การ์ดรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ไอบีเอ็มหมายมั่นปั้นมือจะให้มาแทน VGAในเครื่อง PS/2รุ่นใหม่ ๆ แต่ข้อเสียที่ให้อภัยไม่ได้ของ 8514/Aก็คือ ไม่คอมแพทิเบิลกับ VGAทำให้ชอฟต์แวร์ต่าง
ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาบนVGAนำมาใช้กับ8514/Aได้น้อยมาก ดังนั้นไอบีเอ็มจึงได้พัฒนาการ์ดแสดงผลแบบใหม่ที่จะมาใช้กับเครี่องPS/2รุ่นสูง ๆ โดยใช้ชื่อว่า XGA
XGAถือได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของการแสดงบนเครื่อง PS/2รุ่นใหม่เช่นในโมเดลสูง ๆ การ์ดชนิดนี้จะมีความคอมแพตกับVGAเต็ม 100 % จึงสามารถนำชอฟต์แวร์ของเดิมมาใช้ได้ทันที่
นอกจากจะคงความคอมแพตแล้ว XGA
ยังได้เพิ่มความสามารถพิเศษหลาย ๆ อย่างเข้าไปอีก จึงทำให้ XGAเหมาะสำหรับการติดตั้งเข้ากับเมนบอร์ดของเครื่องPS/2รุนสูง ๆ จึงอาจกล่าวได้ว่าXGAเป็นการรวมเอาความสามารถของVGAและ 8514/Aเข้าไว้ด้วยกัน การพัฒนาการ์ดXGAนั้นมุ่งหน้นให้คงความคอมแพตกับVGAเพื่อให้ชอฟต์แวร์เดิม ๆ ที่พัฒนามาบน VGA สามารถนำมาใช้กับXGAได้ทันทีนอกจากนั้นยังได้เพิ่มการควบคุมบัสแบบใหม่เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากบัสแบบ
MCAได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งใช้
ฮาร์ดแวร์เคอร์เชอร์ที่ให้ผู้ใช้ใช้งานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้นรวมทั้งไอบีเอ็มยังได้จัดเตรียมรายละเอียดการใช้งานและคุณสมบัติของXGAเอาไว้อย่างละเอียด
ซึ่งผู้พัฒนาชอฟต์แวร์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการเขียนแอพพลิเคชันเพื่อรองรับการทำงานกับ
XGAได้ การทำงานของXGAจะแบ่งออกเป็น 3 แบบที่ต่างกัน คือVGA ปกติVGA
แบบ 132คอลัมน์และ XGA การทำงานในโหมดของ VGA นั้นจะเหมือนกับ VGA
การ์ดทุกประการ เพียงแต่เพิ่มเติมอินเทอร์นัลไรท์แคช internal write
cache) ที่ทำหน้าที่เป็นบัฟเฟอร์ให้กับซีพียูไว้สำหรับพักข้อมูลในขณะที่ทำการเขี่ยนข้อมูลลงบนจอภาพ
ทำให้การทำงานของXGAสูงกว่าการ์ด VGAการ์ดโดยทั่วไปจากการทดสอบของไอบีเอ็มพบว่าเมื่อ XGAทำงานในแบบการ์ดVGAจะเร็วกว่าการ์ด VGA
แบบเดิมถึง 20 %ในดอส หรือเร็วขึ้นประมาณ 50 %ในไมโครชอฟต์วินโดว์
นอกจากความเร็วที่สูงขึ้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะยังคงเหมือนกับ VGAทุกประการสำหรับการทำงานในโหมดของ XGA นั้น จะมีความละเอียดและจำนวนสีที่มากกว่าการ์ดVGAโดยจะมีจำนวนสีถึง 65,536สี ความละเอียดสูงสุด1024
X 768 จุด ความสามารถอื่นที่เพิ่มเข้ามาคือฟังก์ชันการควบคุมบัส
ความเร็วในการวาดภาพสูงขึ้น และมีฮาร์ด
แวร์เคอร์เชอร์
พร้อมทั้งหน่วยประมวลผลร่วมทางด้านกราฟิกทำให้สามารถสร้างภาพกราฟิกได้เร็วขึ้น
จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานด้านกราฟิกที่ต้องการความเร็วและความละเอียดสูง
ๆความละเอียดของกราฟิกใน XGA
เลือกได้จาก 640 X 480 จุด หรือ 1024
X 768จุดซึ่งจะต้องมีหน่วยความจำในส่วนของวิดีโอแรมขนาด 1เมกะไบต์
เพื่อรองรับความละเอียดและจำนวนสีระดับนี้ให้ได้ปัญหาอย่างหนึ่งของการพัฒนาโปรแกรมในแบบมัลติทาสกิง
ก็คือการเก็บสภาวะของจอเมื่อมีการสวิตช์ไปมาระหว่างโปรแกรมต่าง ๆ XGA ได้แก้ปัญาหานี้โดยออกแบบให้มีฟังก์ชันในการเก็บสภาวะของจอและการดึงสภาวะเดิมกลับมาไว้ในตัว
ทำให้การพัฒนาโปรแกรมบันมัลติทาสกิงทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น XGAยังสามารถกำหนดหน่วยความจำบนจอภาพให้มีตำแหน่งตรงกับหน่วย
ความจำของซีพียูเพื่อเให้ซีพียูสามารถใช้หน่วยความจำนั้นวาดภาพและแก้ไขได้
โดยไม่ต้องคัดลอกไปมาระหว่างจอภาพกับหน่วยความจำ
เป็นผลให้ความเร็วในการทำงานสูงกว่าปกติขึ้นอีก
ภาพ 30 Card VGA-ISA
ภาพ 31 Card VGA-AGP
ภาพ 32 Card VGA-Pci Express
ผู้เรียบเรียง
นางสาว วรรณกานต์ แดงดิษฐ์
นาย ฤทธิชัย บุญสา